แชทกับ Gemini เพื่อเติมไฟให้ไอเดียของคุณ แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทำให้คุณเข้าถึงกลุ่มโมเดล AI ที่ดีที่สุดของ Google ในอุปกรณ์ได้โดยตรง คุณจึงทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- รับความช่วยเหลือในการเขียน ระดมความคิด เรียนรู้ และอีกมากมาย
- สรุปและค้นหาข้อมูลแบบรวดเร็วใน Gmail หรือ Google ไดรฟ์
- สร้างรูปภาพได้ทันใจ
- ใช้ข้อความ เสียงพูด รูปภาพ และกล้องเพื่อรับความช่วยเหลือในรูปแบบใหม่ๆ
- ในระบบ Android พูดว่า "Ok Google" เพื่อขอความช่วยเหลือจาก Gemini เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอของคุณ
- วางแผนโดยใช้ Google Maps และ Google Flights
คุณสามารถพิมพ์ พูด ใช้รูปภาพ หรือถ่ายรูปเพื่อเริ่มต้นใช้งานได้
หมายเหตุ:
- "Ok Google" และฟีเจอร์บางส่วนที่ก่อนหน้านี้มีให้บริการใน Google Assistant อาจไม่มีให้บริการในบางประเทศและบางภาษา หรือใช้ไม่ได้กับบัญชีที่มีการควบคุมดูแล ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาที่แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณมีให้บริการ
-
หากคุณมีสิทธิ์เข้าถึงแอป Gemini ด้วยบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน บางฟีเจอร์ของแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะไม่มีให้บริการ ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนโดย Google Assistant เช่น ฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียงง่ายๆ ดูวิธีที่ผู้ใช้เหล่านี้สามารถเข้าถึงแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
ก่อนจะใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- อย่ายึดถือเอาคำตอบของ Gemini เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ กฎหมาย การเงิน หรือวิชาชีพอื่นๆ
- คำตอบจาก Gemini ไม่ได้แสดงมุมมองของ Google และไม่ควรระบุว่ามาจาก Google
- คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการนำโค้ดไปใช้งาน ซึ่งอาจอยู่ภายใต้ใบอนุญาตโอเพนซอร์ส ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโค้ดและการอ้างอิง
- Gemini อาจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้คน ดังนั้นโปรดตรวจสอบคำตอบอีกครั้ง ความคิดเห็นของคุณทำให้แอป Gemini เป็นประโยชน์และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดูวิธีแสดงความคิดเห็น
ดูวิธีเริ่มต้นใช้งานแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
สิ่งที่แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถทำได้
คุณสามารถพิมพ์ พูด หรือใช้รูปภาพเพื่อแชทกับ Gemini และทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ได้
- เรียนรู้ในวิธีใหม่ๆ และด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับหัวข้อปลายเปิดผ่านการสนทนากันไปมา
- ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว แตะกล้อง
ในแอป Gemini จากนั้นถ่ายรูปและถามคำถามเกี่ยวกับรูปดังกล่าว
- รับความช่วยเหลือในการเขียน การแก้ไขไวยากรณ์ และการแปล
- รับแรงบันดาลใจสำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจ และแสดงแผนการเดินทางออกมาให้เห็นภาพบนแผนที่
- สรุปหรือรับภาพรวมของหัวข้อหนึ่งๆ ในรูปแบบที่คุณต้องการ เช่น รายการ ตาราง หรือแผนภูมิ
- ค้นหาว่าเพลงที่เปิดอยู่คือเพลงอะไร
- ในตอนนี้ ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้เมื่อคุณใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
-
- เมื่อใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลในระบบ Android คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- คุณจะถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้ เช่น ให้สรุปหน้าเว็บหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับของบางอย่างในรูปภาพ เพียงแค่เปิดใช้งาน Gemini บนหน้าแอปอื่นรวมถึง Chrome แล้วแตะเพิ่มหน้าจอนี้
จากนั้นก็ถามคำถามได้เลย
- ใช้เสียงของคุณเพื่อใช้งานแบบลัด เช่น ส่งข้อความหรือเปิดไฟ
- คุณจะถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้ เช่น ให้สรุปหน้าเว็บหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับของบางอย่างในรูปภาพ เพียงแค่เปิดใช้งาน Gemini บนหน้าแอปอื่นรวมถึง Chrome แล้วแตะเพิ่มหน้าจอนี้
- เริ่มต้นกิจวัตรด้วยเสียงหรือการพิมพ์คำสั่งเมื่อคุณเชื่อมต่อ Google Home เข้ากับแอป Gemini
- เคล็ดลับ: ระบบจะไม่รองรับเงื่อนไขเริ่มต้นและการดำเนินการบางอย่างเมื่อคุณใช้กิจวัตรด้วย Gemini หากระบบไม่รองรับการดำเนินการใด Gemini จะข้ามการดำเนินการนั้น
เคล็ดลับ:
- Gemini ยังคงเรียนรู้อยู่ จึงอาจให้ความช่วยเหลือไม่ได้ในบางเรื่อง หาก Gemini ไม่สามารถช่วยในเรื่องที่ Google Assistant ทำได้ คุณก็เปลี่ยนไปใช้ Google Assistant ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ Android ได้
- บางฟีเจอร์มีข้อกำหนดด้านอายุและใช้ไม่ได้กับบัญชีที่มีการควบคุมดูแล ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Gemini ด้วยบัญชีที่มีการควบคุมดูแล
วิธีที่แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่และ Google Assistant ทำงานร่วมกันในอุปกรณ์ Android
ในอุปกรณ์ Android
ใน Pixel Tablet
เคล็ดลับ: หากแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่รองรับฟีเจอร์ที่คุณจำเป็นต้องใช้ ก็เปลี่ยนไปใช้ Google Assistant ได้
วิธีที่ Gemini และ Google Assistant ใช้ข้อมูลของคุณ
เมื่อ Gemini กับ Google Assistant ทำงานร่วมกันภายในแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบจะบันทึกกิจกรรมของคุณไว้ในกิจกรรมบนแอป Gemini (หากเปิดไว้) และนำไปใช้ตามที่อธิบายไว้ในประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอป Gemini เมื่อ Google Assistant ขับเคลื่อนฟีเจอร์หรืออุปกรณ์ภายนอกแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบจะบันทึกกิจกรรมของคุณไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอป (หากเปิดไว้) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google Assistant ทำงานกับข้อมูลของคุณ
Gemini สามารถช่วยคุณโทรและส่งข้อความได้เหมือน Google Assistant
สำคัญ: สำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 13 ปี (หรืออายุตามหลักเกณฑ์ในประเทศของคุณ) กิจกรรมบนแอป Gemini จะปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น และไม่สามารถเปิดได้
หากคุณมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปและได้ใช้ Google Assistant เพื่อโทรหรือส่งข้อความในช่วง 90 วันก่อนที่จะเริ่มใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัล ระบบจะนำเข้าประวัติคำขอการสื่อสารใน Google Assistant ที่บันทึกไว้ (เช่น "ส่งข้อความ WhatsApp ถึงวิสา") จากกิจกรรมบนเว็บและแอปไปยังกิจกรรมบนแอป Gemini ของคุณ หากเปิดการตั้งค่าผลการค้นหาเฉพาะบุคคลของ Assistant ไว้ ระบบจะใช้ข้อมูลนี้และคำขอการสื่อสารของคุณในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน Gemini เช่น การเลือกรายชื่อติดต่อหรือแอปรับส่งข้อความที่เหมาะสม คุณสามารถปิดผลการค้นหาเฉพาะบุคคลได้ทุกเมื่อ
หากเปิดการตั้งค่าผลการค้นหาเฉพาะบุคคลของ Assistant ไว้ ระบบจะใช้คำขอการสื่อสารของคุณในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน Gemini เช่น การเลือกรายชื่อติดต่อหรือแอปรับส่งข้อความที่เหมาะสม คุณสามารถปิดผลการค้นหาเฉพาะบุคคลได้ทุกเมื่อ
หาก Gemini สามารถใช้แอปการสื่อสารในภาษาของคุณได้ Gemini จะจัดการการโทรและข้อความโดยตรงโดยไม่ต้องให้ Google Assistant ช่วย หากต้องการโทรออกหรือส่งข้อความด้วยแอปเหล่านี้ คุณอาจต้องอัปเดตการตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แอปสื่อสารด้วย Gemini
ฟีเจอร์ของ Google Assistant ในแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
ในระบบ Android แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะรับความช่วยเหลือจาก Google Assistant สำหรับฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียงง่ายๆ บางอย่างที่คุ้นเคย นอกจากนั้น คุณสามารถพูดกับ Gemini ได้ด้วยการใช้งาน "Ok Google" และ Voice Match ที่ขับเคลื่อนด้วย Google Assistant ในอุปกรณ์บางรุ่น คุณยังทำงานบางอย่างให้เสร็จได้ เช่น รับสาย ด้วยการใช้วลีสั้นๆ โดยไม่ต้องพูดว่า "Ok Google"
ข้อสำคัญ:
- ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่มีให้บริการในภาษาบัลแกเรีย โครเอเชีย เอสโตเนีย ฟินแลนด์ กรีก ฮีบรู ฮังการี ลัตเวีย ลิทัวเนีย โรมาเนีย เซอร์เบีย สโลวัก สโลวีเนีย ยูเครน
- ไม่สามารถใช้ "Ok Google" และ Voice Match กับ Gemini ในบัญชีที่มีการควบคุมดูแล
Gemini ยังคงเรียนรู้อยู่ Google Assistant จึงจะช่วยขับเคลื่อนฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียงง่ายๆ บางอย่างที่คุ้นเคย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ ซึ่งจะรวมถึงพรอมต์ต่างๆ เช่น เวลาที่คุณขอให้ทำสิ่งต่อไปนี้
- อ่านข้อความขาเข้า
- ประกาศข้อความผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในบ้านของคุณ
- ค้นหาว่าเพลงที่เปิดอยู่คือเพลงอะไร
เมื่อ Gemini ใช้ฟังก์ชันของ Google Assistant สำหรับการสั่งงานด้วยเสียงง่ายๆ การตั้งค่าบางอย่างของ Google Assistant จะมีผล เช่น ผลการค้นหาเฉพาะบุคคล และคุณสามารถควบคุมการตั้งค่าเหล่านั้นได้ในการตั้งค่าแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าดังกล่าว
- เปิดแอป Gemini
- แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณที่ด้านบน
การตั้งค่า
ฟีเจอร์ของ Google Assistant ใน Gemini
- เลือกการตั้งค่าที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
เคล็ดลับ: หาก Gemini ไม่รองรับฟีเจอร์จาก Google Assistant ที่คุณจำเป็นต้องใช้ ก็เปลี่ยนไปใช้ Google Assistant ได้
ใช้เสียงของคุณเพื่อรับความช่วยเหลือจาก Gemini ด้วยคำว่า "Ok Google" และ Voice Match ที่ขับเคลื่อนโดย Google Assistantคุณสามารถใช้เสียงเพื่อรับความช่วยเหลือจากแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยคำว่า "Ok Google" และ Voice Match ที่ขับเคลื่อนโดย Google Assistant หากคุณใช้ "Ok Google" และ Voice Match สำหรับ Google Assistant ในอุปกรณ์ Android อยู่แล้ว เมื่อเปลี่ยนไปใช้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ คุณจะเริ่มใช้ "Ok Google" เพื่อเข้าถึง Gemini ได้ทันที
สำหรับอุปกรณ์ Android ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เมื่ออุปกรณ์ไม่ได้ล็อกไว้ "Ok Google" จะทำให้คุณแชทกับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้แบบแฮนด์ฟรี
- เมื่ออุปกรณ์ล็อกแต่เปิดการตั้งค่าหน้าจอล็อก, "Ok Google" และ Voice Match ไว้ คุณยังรับความช่วยเหลือบางอย่างได้แบบแฮนด์ฟรีด้วยการสั่งงานด้วยเสียงง่ายๆ (เช่น การส่งข้อความ)
- เมื่ออุปกรณ์ล็อกไว้ คุณก็ยังเริ่มต้นการแชทกับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วด้วยคำว่า "Ok Google" แต่อาจต้องปลดล็อกอุปกรณ์เพื่อรับคำตอบจาก Gemini
สำหรับ Pixel Tablet ให้ดำเนินการดังนี้
- เมื่อ Pixel Tablet ไม่ได้ล็อกไว้ "Ok Google" จะทำให้คุณแชทกับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้แบบแฮนด์ฟรี
- เมื่อ Pixel Tablet ล็อกอยู่ "Ok Google" จะใช้ Google Assistant
- หาก Google Assistant ต้องการให้คุณปลดล็อก Pixel Tablet เพื่อดำเนินการตามคำขอให้เสร็จสมบูรณ์ Assistant จะส่งคำขอของคุณไปยัง Gemini
วิธีเปิด "Ok Google" และ Voice Match
- เปิดแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในอุปกรณ์ของคุณ
- แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ
การตั้งค่า
ฟีเจอร์ของ Google Assistant ใน Gemini
"Ok Google" และ Voice Match
- เปิด Ok Google
- หากต้องการตั้งค่า Voice Match ให้ทำตามข้อความแจ้งเพื่อให้ผู้ช่วยของคุณจดจำคุณได้เมื่อพูดว่า "Ok Google"
- หากต้องการค้นหาหรือลบคลิปเสียงที่คุณบันทึกไว้ระหว่างการตั้งค่า Voice Match ให้ไปที่ g.co/assistant/enrollment-clips
วิธีปิด "Ok Google"
- เปิดแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในอุปกรณ์ของคุณ
- แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อของคุณ
การตั้งค่า
ฟีเจอร์ของ Google Assistant ใน Gemini
"Ok Google" และ Voice Match
- ปิด Ok Google
- หากต้องการนำรูปแบบ Voice Match ออกจากอุปกรณ์ ให้แตะลบรูปแบบ Voice Match โดยคุณจะต้องตั้งค่า Voice Match อีกครั้งหากต้องการกลับมาเปิด "Ok Google"
วิธีที่ Google Assistant ขับเคลื่อน "Ok Google" และ Voice Match ให้แอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
คุณสามารถใช้เสียงเพื่อรับความช่วยเหลือจากแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยคำว่า "Ok Google" และ Voice Match ที่ขับเคลื่อนโดย Google Assistant
เมื่อเปิด "Ok Google" ไว้ Google Assistant ออกแบบมาให้รอในโหมดสแตนด์บายจนกว่าจะตรวจพบการเปิดใช้งาน เช่น เมื่อได้ยินคำว่า "Ok Google" เมื่ออยู่ในโหมดสแตนด์บาย Google Assistant จะไม่ส่งสิ่งที่คุณพูดไปให้ Google หรือใครก็ตาม เมื่อตรวจพบการเปิดใช้งานและจำได้ว่าเป็นคุณด้วย Voice Match แล้ว Google Assistant จะออกจากโหมดสแตนด์บายและส่งคำขอของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันหากมีเสียงที่ฟังคล้ายๆ กับคำว่า "Ok Google"
"Ok Google" ต้องใช้ Voice Match เพื่อให้จดจำคุณได้ หากคุณยินยอมให้ตั้งค่า Voice Match แล้ว Google Assistant จะสร้างรูปแบบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณจากคลิปที่อัดไว้ระหว่างการตั้งค่า โดยรูปแบบเสียงนี้จะสร้างขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ของ Google และจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ที่คุณเปิดใช้ Voice Match เท่านั้น เมื่ออุปกรณ์ตรวจพบคำว่า "Ok Google" ทาง Google Assistant อาจส่งเสียงที่ตรวจจับได้นั้นพร้อมรูปแบบเสียงของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google เป็นการชั่วคราวเพื่อเปรียบเทียบและพิจารณาว่าเป็นคุณหรือไม่ Google จะลบรูปแบบเสียงและข้อมูลการเปรียบเทียบจากเซิร์ฟเวอร์ทันทีหลังประมวลผลข้อมูลเสร็จ โปรดทราบว่าเสียงหรือเสียงบันทึกที่คล้ายกับเสียงของคุณอาจทำให้ Voice Match คิดว่าเป็นคุณได้ หากคุณตัดสินใจในภายหลังว่า Voice Match ไม่เหมาะกับคุณ ก็สามารถนำรูปแบบ Voice Match ออกจากอุปกรณ์ Android หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Assistant ทั้งหมดออกจากการตั้งค่า "Ok Google" และ Voice Match (เข้าถึงได้ผ่านการตั้งค่า Gemini หรือการตั้งค่า Google Assistant)
เมื่อคุณใช้ "Ok Google" และ Voice Match สำหรับแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ Google Assistant จะตรวจหาการเปิดใช้งาน, จดจำว่าเป็นคุณด้วย Voice Match, นำคำถามของคุณไปยัง Gemini และช่วย Gemini ทำตามคำขอของคุณหากเป็นฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียงง่ายๆ ที่ Gemini กำลังเรียนรู้ที่จะจัดการเองอยู่ เมื่อคุณโต้ตอบกับ Gemini และ Google Assistant ให้ความช่วยเหลือ ระบบจะจัดเก็บการโต้ตอบของคุณไว้ในกิจกรรมบนแอป Gemini หากผู้ช่วยของคุณเปิดใช้งานโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจ และปิดใช้กิจกรรมบนแอป Gemini ระบบจะไม่จัดเก็บการโต้ตอบนั้นไว้ในกิจกรรมบนแอป Gemini แต่หากการตั้งค่ากิจกรรมบนแอป Gemini ของคุณเปิดอยู่ ระบบจะจัดเก็บการโต้ตอบของผู้ช่วยรวมถึงการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจทั้งหมดไว้ และดำเนินการเหมือนการเปิดใช้งานตามปกติ ระบบจะนำข้อมูลของคุณในกิจกรรมบนแอป Gemini ไปใช้พัฒนาและปรับปรุงบริการของ Google (รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยลดการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ) ตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google คุณปิดการตั้งค่ากิจกรรมบนแอป Gemini ได้ทุกเมื่อ
Google Assistant ขับเคลื่อนฟีเจอร์อื่นๆ ในส่วนใดบ้างบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
แม้ในตอนที่ Gemini เป็นผู้ช่วยหลักจาก Google ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ ฟีเจอร์บางอย่างในอุปกรณ์จะยังขับเคลื่อนด้วย Google Assistant โดยตรงต่อไป ซึ่งรวมถึงกรณีต่อไปนี้
- เมื่อใช้ไมโครโฟนในแถบค้นหาของแอป Google Maps และเมื่อเปิดใช้งาน Google Assistant ขณะนำทาง เช่น ด้วยการแตะไมโครโฟนบนหน้าจอหรือพูดว่า "Ok Google" และในตอนที่คุณกำลังใช้โหมดขับรถของ Google Assistant
- เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้ Gemini เพื่อเริ่มต้นการนำทางใน Google Maps ได้ Google Assistant จะช่วยเมื่อการนำทางเริ่มต้นขึ้น
- เมื่อเข้าใช้งาน Google Assistant จาก Android Auto ด้วยการเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับจอรถยนต์
- เมื่อใช้ไมโครโฟนในแถบค้นหาของแอป Waze และเมื่อเปิดใช้งาน Google Assistant ด้วยแอป Waze ในเบื้องหน้า
- เมื่อใช้การพิมพ์ด้วยเสียงจาก Assistant ใน Gboard
- เมื่อรับการแจ้งเตือนของ Android จากอุปกรณ์ Google Assistant
- ใน Pixel Tablet เมื่อคุณส่งคำขอในโหมดล็อก
Gemini จะไม่แทนที่ Google Assistant ในอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณ ถึงแม้คุณจะเปลี่ยนไปใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลก็ตาม ในอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์เคลื่อนที่ รวมถึงจออัจฉริยะ ลำโพงอัจฉริยะ ทีวี รถยนต์ สมาร์ทวอทช์ หูฟังและหูฟังเอียร์บัดที่มี Google Assistant ในตัว ตลอดจน Pixel Tablet ที่อยู่ในโหมดล็อกนั้น Google Assistant จะยังคงตอบสนองต่อคำว่า "Ok Google" ต่อไป
เคล็ดลับ: หาก Gemini ไม่รองรับฟีเจอร์จาก Google Assistant ที่คุณจำเป็นต้องใช้ ก็เปลี่ยนไปใช้ Google Assistant ได้
Gemini ไม่รองรับฟีเจอร์และบริการบางอย่างจาก Google Assistant
เมื่อคุณใช้ Gemini เป็นผู้ช่วยดิจิทัลหลัก ระบบจะไม่รองรับฟีเจอร์และบริการบางอย่างที่คุณใช้ใน Google Assistant ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์และบริการต่อไปนี้
- ผู้ให้บริการสื่อ: ขณะนี้ Gemini ยังไม่รองรับพอดแคสต์ ข่าว และสถานีวิทยุ รวมถึงผู้ให้บริการเพลงที่เป็นบุคคลที่สามบางราย
- โหมดล่าม: เปลี่ยนไปเป็น Google Assistant เพื่อใช้โหมดล่าม
หมายเหตุ: Gemini ยังคงเรียนรู้อยู่ หากแอป Gemini บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่รองรับฟีเจอร์ที่คุณจำเป็นต้องใช้ ก็เปลี่ยนไปใช้ Google Assistant ได้